บริการของ AirBNB ไปช่วยเหลืออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวท้องถิ่น ไม่ให้ผูกขาดกับธุรกิจโรงแรมที่ราคาแพงกว่า

ทุกวันนี้เริ่มได้ยินคำว่า Startup เยอะขึ้น โดย Startup เป็นอะไรที่ใกล้เคียงกับ SMEs นั่นคือ การเป็นเจ้าของธุรกิจ มีเงินทุน แตกต่างกันก็เพียง SMEs คือ ธุรกิจที่เกิดขึ้นได้โดยมีความพร้อม มีเงินทุน มีแผนธุรกิจ และต้องทำกำไรให้เติบโต แต่สำหรับ Startup คือธุรกิจที่เกิดขึ้นได้โดยไอเดีย มีแผนธุรกิจที่แตกต่างทางด้านช่องทาง สามารถนำนวัตกรรมมาปรับใช้กับธุรกิจให้เติบโตได้เร็วในต้นทุนที่ต่ำ ที่สำหรับ Startup เป้าหมายหลักคือ เงินทุน จาก นายทุน (Venture Capital, VC) เพื่อสานต่อนวัตกรรมและธุรกิจของตัวเอง

ควรเลือกเป็นอะไรดีระหว่าง Startup กับ SMEs?

ไม่ว่าจะเป็น Startup หรือ SMEs แล้วจุดเริ่มต้นส่วนใหญ่มาจากที่เดียวกัน คือการมีธุรกิจเป็นของตนเอง ธุรกิจของตัวเองเป็นสิ่งที่หลายคนต้องการ โดยเฉพาะคนใน Generation นี้ แต่ข้อจำกัดในด้านเงินลงทุนเป็นกำแพงชั้นแรก สำหรับ SMEs ค่าใช้จ่ายสูงในการเริ่มต้นเป็นผู้ประกอบการ

เป็นที่มาของการกู้ยืมเพื่อเริ่มต้นธุรกิจ หรือบางคนก็อาจจะมีต้นทุนที่ดีกว่ามีโรงงาน มีพื้นที่ มีเงินทุนจากครอบครัวหยิบยืมมาทำ ทำให้ SMEs มีปัญหาในเรื่องของเงินทุน ตรงกันข้าม Startup ในช่วงเริ่มต้นอาจจะใช้เงินทุนของตัวเองในปริมาณที่น้อยกว่า SMEs ในการนำเสนอ Idea จำพวก Business Model ในรูปแบบ Prototype หรือ Pilot Plan (ต้นแบบของตัวรูปแบบแผนธุรกิจ และผลลัพธ์การคำนวณรายได้เบื้องต้น) เดินเข้าไปเสนอกับนายทุน (VC) ด้วยการที่ใช้เงินทุนที่น้อยกว่า SMEs หลายเท่า และใช้เพียงแค่ไอเดียที่สร้างสรรค์ พร้อมแผนธุรกิจต่อยอดที่ตรวจทานรอบครอบพร้อมนำเสนอ

ทำให้หลายคนที่ต้องการมีธุรกิจเป็นของตัวเองในยุคนี้เลือกที่จะเป็น Startup มากกว่า ยังไงก็ตามแม้ว่าแนวทางการเป็น Startup จะเป็นอะไรที่ฟังดูง่าย เป็นไปได้ แค่มีความพร้อม มีไอเดีย สถิติโดยรวมแล้ว ความสำเร็จของ Startup นั้นกลับอยู่ที่ 10 เปอร์เซ็นต์ อีก 90 เปอร์เซ็นต์ นั้นคือล้มเหลว เพราะ Startup ที่จะประสบความสำเร็จนั้นต้องมีไอเดียที่เข้าขั้น Perfect (ยอดเยี่ยม) จริงๆ ถึงจะได้ไปต่อ หรือ หากว่าไอเดียที่นำเสนอมีความใกล้เคียง หรืออยู่ในส่วนของ การเพิ่มนวัตกรรมเข้าไปช่วยเหลือ การหา VC ที่ชอบก็เหมือนเข้าไปนัดบอดหาคู่คนที่ใช่